0
0.00
ปล่อยวางได้ใจจึงจะเป็นสุข
ปล่อยวางได้ใจจึงจะเป็นสุข

การปล่อยวางจะทำให้เราเป็นสุขและพ้นจากทุกข์ได้จริงหรือ แล้วทำอย่างไรใจจึงจะปล่อยวางได้...

บ่อยครั้ง.. เวลาใดก็ตามที่เราเจอกับสถานการณ์ที่แย่ จิตใจของเราก็จะว้าวุ่น แล้วก็จะนึกบ่นกับตัวเองขึ้นมาว่า “อยากลืมจัง ปลงสิ ปลง”
“จะทำอย่างไรดี”

ความรู้สึกเหล่านี้จะวิ่งพล่านไปหมดเลย เช่น กังวลจัง  ว้าวุ่นใจจัง เครียด อธิบายไม่ถูกแต่น้ำตาจะไหล บางครั้งความรู้สึกบางอย่าง เราเองก็อยากจะทิ้งมันไปเสียเหลือเกิน แต่ก็ทำไม่ได้

บางครั้งก็เหมือนจะเททิ้งไปได้แล้ว แต่เราเองก็ไปเก็บเศษเล็กเศษน้อยของมันขึ้นมาอีก

อยากปล่อยวางนะ แต่ก็ทำได้ยากเหลือเกิน แม้บางครั้งเราจะเป็นผู้ที่ให้คำแนะนำผู้อื่นได้ดี แต่เมื่อเรื่องนั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง เราเองก็อาจรับมือและจัดการกับมันได้ไม่ดีนัก

ทั้งนี้ การปล่อยวางแม้ทำได้ยากก็จริง ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ละคนด้วยเช่นกัน แต่ยิ่งเราคิดในแง่ลบหรือคิดไปไกลเกี่ยวกับบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่เกิดขึ้นไปก่อนแล้ว เราก็จะยิ่งวิตกกังวล จนกลายเป็นคนคิดมาก

ฉะนั้นเราจึงต้องปล่อยวางเสียบ้าง ความหมายก็ตรงตามตัว คือปล่อยไป ไม่ต้องไปคิดถึงสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อยู่กับปัจจุบัน นำอดีตเป็นบทเรียน และไม่คาดหวังอนาคตมากจนเกินไป

อีกอย่างหนึ่งก็คือการที่เราได้เปิดใจ เพื่อที่จะเล่าเรื่องราวให้คนอื่นรับฟัง ให้ตนเองไม่เครียดหรือกดดันมากเกินไป แต่การเล่าและเปิดใจก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวของเราด้วยว่าเราพร้อมที่จะเล่าหรือไม่ และยอมรับผลที่ตามมาได้ไหม และคนที่เราไว้ใจที่จะเล่านั้นคือใคร ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ญาติพี่น้อง หรือเพื่อนของเราเองก็ตาม

และที่ขาดไปไม่ได้แลยก็คือ การรู้จักให้เวลาทำงาน ปล่อยให้เวลาผ่านไป ให้เวลาช่วยผ่อนความกลัว ความกังวล และความว้าวุ่นเหล่านั้น เชื่อว่าเมื่อเรามองย้อนกลับมา เรื่องที่เราเคยคิดว่ามันยากลำบากและแก้ไขไม่ได้เสียที ก็อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ได้ที่ยิ่งใหญ่เช่นนั้นอีกแล้ว

ดังนั้นการให้เวลาทำงานเสีย..ก็เป็นตัวช่วยที่จะทำให้เราปล่อยวางได้ดีเช่นกัน



บุญรักษาค่ะ

ขอขอบคุณแหล่งธรรมะจาก วิดีโอ สุดยอดความคิดและคติเตือนใจสู่การปล่อยวางตามทางพุทธศาสนา

+